ข้อดี : มะเขือเทศ สีแดงมีสรรพคุณอย่างไร ดีอย่างไรบ้าง

ประโยชน์และสพรรคุณของ มะเขือเทศ สีแดง ดีอย่างไรบ้าง

หลาย ๆ คนอาจจะกำลังสับสนว่า มะเขือเทศ เป็นผักหรือผลไม้ เพราะรสชาติที่เหมือนกับผลไม้ แต่รสสัมผัสเหมือนผักของมัน ไม่แปลกที่ความจริงแล้ว มะเขือเทศนั้นนับเป็นผลไม้ เพราะมีเมล็ด เลยถูดจัดให้อยู่ในระดับเดียวกับเบอร์รี่นั่นเอง นอกจากหน้าตาที่ดูดีและรสชาติที่หวานเปรี้ยวของมัน มะเขือเทศยังถือว่าเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีสารอาหารแบบจัดเต็มอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

คุณค่าทางโภชนาการของ มะเขือเทศสีแดง

มะเขือเทศเป็นผลไม้แคลอรีต่ำที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น มะเขือเทศขนาดกลางหนึ่งลูกประกอบด้วย:

• พลังงาน 22 แคลอรี่
• โปรตีน 1 กรัม
• คาร์โบไฮเดรต 5 กรัม
• ไฟเบอร์ 1.5 กรัม
• น้ำตาล 3.5 กรัม
• 40% ของปริมาณวิตามินซีที่แนะนำต่อวัน
• 20% ของปริมาณวิตามินเอที่แนะนำต่อวัน
• โพแทสเซียม 10% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
• 6% ของปริมาณแมกนีเซียมที่แนะนำต่อวัน

มะเขือเทศยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ไลโคปีน ซึ่งช่วยปกป้องร่างกายจากการทำลายเซลล์และป้องกันโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ต่อสุขภาพของ มะเขือเทศ

• ช่วยป้องกันมะเร็ง

ไลโคปีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในมะเขือเทศ ช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิด รวมทั้งมะเร็งต่อมลูกหมาก เต้านม ปอด และกระเพาะอาหาร 

นอกจากนี้เส้นใยในมะเขือเทศยังช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย

• ช่วยให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้น

ปริมาณวิตามินซีภายในมะเขือเทศสามารถช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้นโดยช่วยในการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่จำเป็นต่อการรักษาโครงสร้างและความยืดหยุ่นของผิวหนัง นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระในมะเขือเทศยังช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของแสงแดดและลดสัญญาณแห่งวัย

• ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

มะเขือเทศเป็นแหล่งวิตามินซีชั้นดี ซึ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับระบบภูมิคุ้มกันของร่างาย วิตามินซีสามารถช่วยปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อ และลดความรุนแรงและระยะเวลาของโรคหวัดหรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ

ข้อควรระวังในการทานมะเขือเทศ

1. อาการแพ้: บางคนอาจแพ้มะเขือเทศ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น คัน ลมพิษ และบวม ในกรณีที่รุนแรง ปฏิกิริยาการแพ้ต่อมะเขือเทศอาจทำให้เกิดภาวะภูมิแพ้ (anaphylaxis) ซึ่งเป็นภาวะที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
2. กรดไหลย้อน: มะเขือเทศมีสภาพเป็นกรด ซึ่งอาจทำให้บางคนมีอาการกรดไหลย้อนได้ หากคุณรู้สึกแสบร้อนกลางอกหรืออาการกรดไหลย้อนอื่นๆ หลังจากรับประทานมะเขือเทศ คุณควรหลีกเลี่ยงการทานมะเขือเทศ
3. นิ่วในไต: มะเขือเทศมีสารออกซาเลต ซึ่งสามารถนำไปสู่การก่อตัวของนิ่วในไต หากคุณมีประวัติอาการป่วยที่เกี่ยวกับนิ่วในไต ควรทานมะเขือเทศแต่พอดี 
4. สารกำจัดศัตรูพืช: มะเขือเทศเป็นหนึ่งในพืชที่มีการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงมากที่สุด ซึ่งอาจทำให้สารกำจัดศัตรูพืชตกค้างบนผิวของมะเขือเทศได้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อยาฆ่าแมลง อย่าลืมล้างให้สะอาดก่อนบริโภค หรือเลือกซื้อมะเขือเทศจากแหล่งที่ปลอดภัย
5. มะเขือเทศอาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด: มะเขือเทศอาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ยาลดกรด หากคุณกำลังใช้ยาเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานมะเขือเทศหรือผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศในปริมาณมาก

สรุป

มะเขือเทศเป็นผลไม้ที่สามารถทานได้ง่าย รสชาติดี ไม่ขม เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาสารอาหารจากผักผลไม้ที่มีรสชาติอร่อย มะเขือเทศถือว่าสามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน คุณสามารถทานมะเขือเทศได้ทั้งในรูปแบบของคาวและของหวาน เพราะมันสามารถเข้ากันได้กับอาหารทุกรูปแบบ อย่าลืมล้างให้สะอาดและเลือกซื้อเฉพาะมะเขือเทศจากแหล่งออร์แกนิคที่ปลอดภัย